ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความตั้งใจของคุณ

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความตั้งใจของคุณ ดังนั้น ให้ตรวจสอบทัศนคติและแรงจูงใจของคุณตลอดเวลา ทุกคนต้องการความสุข แต่วิธีที่แท้จริงในการบรรลุความสุขที่สมบูรณ์แบบคือการนำความสุขไปสู่ผู้อื่นแคมป์ 46/2021
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความตั้งใจของคุณ ดังนั้น ให้ตรวจสอบทัศนคติและแรงจูงใจของคุณตลอดเวลา ทุกคนต้องการความสุข แต่วิธีที่แท้จริงในการบรรลุความสุขที่สมบูรณ์แบบคือการนำความสุขไปสู่ผู้อื่นแคมป์ 46/2021
Empathy ( #การหยั่งรู้วาระจิต) #แตกต่างจาก Sympathy (ความสงสาร)Sympathy จะเป็นความรู้สึกของความเศร้าโศกหรือเวทนาไปกับผู้ที่ประสบกับความทุกข์ยากลำบากในบางเรื่องราว…..แต่ Empathy คือการเสียสละ และแสดงออกด้วยการกระทำที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นซึ่งในขณะที่ Empathy จะดูเหมือนเป็นเรื่องที่เป็นไปด้านบวก และมีจริยธรรมอันสูงส่ง ทั้งยังมีหลักการในการปฏิบัติที่ดีก็ตามที แต่ก็มีบางคนเชื่อว่า การหยั่งรู้วาระจิตผู้อื่นมากเกินไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อความผาสุกของตัว Empath (ผู้หยั่งรู้วาระจิต) เอง และอันตรายนั้นอาจลามไปถึงระดับโลกอีกด้วยเพราะพฤติกรรมของการหยั่งรู้วาระจิต (Empathy) ที่มากเกินไปนั้น จะไปรบกวนต่อการตัดสินใจที่ควรจะเป็นไปตามเหตุผล ซึ่งสืบเนื่องจากการที่พวก Empath ชอบที่จะใช้หัวใจนำทางมากกว่าสมอง ซึ่งอาจทำให้พวกเขาสูญเสียภาพที่กว้างขึ้นของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวก็เป็นได้ตามหลักจิตวิทยา… Empathy (การหยั่งรู้วาระจิต) แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ…คือ1. ‘การหยั่งรู้ที่มีความเข้าใจในด้านของปัญญา และองค์ความรู้ ‘ซึ่งมีขีดความสามารถในการเข้าใจว่าผู้คนรู้สึกอย่างไร และกำลังคิดอะไรอยู่ และการหยั่งรู้ในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้เกิดการถ่ายทอดข้อมูลที่สามารถเข้าถึงผู้อื่นได้อย่างตรงประเด็นที่สุด2. ‘การหยังรู้วาระจิตในด้านอารมณ์’ (หรือที่เรียกว่า รับอารมณ์ผู้อื่น) จะมีขีดความสามารถในการแบ่งปันความรู้สึกของบุคคลอื่น ซึ่งบางคนได้เปรียบเทียบไว้คล้ายประโยคที่ว่า…. “ความเจ็บปวดของคุณมันอยู่ในหัวใจของฉัน” …..ซึ่ง การหยั่งรู้ ฯ ในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดการสร้างอารมณ์ร่วมในการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน3. ‘การหยั่งรู้ที่เป็นไปด้วยความเมตตา-กรุณา’ (หรือที่เรียกว่า เอื้ออาทร…
ชีวิตก็เหมือนกับการล้มแล้วลุกใหม่ กระบวนการรับความรู้และบทเรียนการเรียนรู้ ในฐานะมนุษย์ เราไม่ได้ถูกสร้างมาให้สมบูรณ์แบบ พวกเราส่วนใหญ่จะทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่เรามีความสามารถในการเรียนรู้จากความผิดพลาดซึ่งสอนให้เราเติบโตในฐานะบุคคล บางบทเรียนลึกซึ้งกว่าบทเรียนอื่น สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่าบทเรียนชีวิต ความรู้ประเภทนี้ถือเป็นแพ็คเกจล้ำค่าที่เราพยายามจะพกติดตัวไปตลอด แต่บางครั้ง บางคนมักจะลืมสิ่งนี้และพวกเขาจำเป็นต้องได้รับการเตือน ความรู้ส่วนใหญ่ของบทเรียนชีวิตเป็นเพียงการช่วยและแจ้งตัวเอง บางทีคนอื่นอาจได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ในบางจุดผ่านทางคุณ แต่โดยพื้นฐานแล้วความรู้นี้มีไว้เพื่อช่วยเหลือคุณและมีเพียงคุณเท่านั้น การลืมสิ่งเหล่านั้นจะสร้างปัญหามากขึ้นเท่านั้นและอาจส่งผลด้านลบตามมาด้วย ดังนั้น แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่า เพื่อตัวคุณเอง อย่าลืมบทเรียนชีวิตทั้ง 5 ข้อนี้อีก ชีวิตคือสิ่งที่คุณสร้างขึ้นไม่มีเหตุผลว่าทำไมคำพูดนี้จะถูกทำซ้ำจึงมักจะเป็นก็มีเป็นจำนวนมากของความจริงมัน คุณเป็นผู้กำกับชีวิตของคุณเอง นั่นคือส่วนที่คนมักจะลืม ไม่ใช่ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา บางคนอยากจะมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้ มากกว่าสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ เช่น การกระทำของพวกเขาเอง การตั้งตัวเองเป็นเหยื่อและโทษโลกทั้งใบสำหรับตำแหน่งที่คุณอยู่ ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายแต่เมื่อเวลาผ่านไป มันจะลากคุณลงไปอีก ให้พยายามมุ่งเน้นไปที่แง่มุมต่างๆ ที่คุณสามารถควบคุมได้และจุดที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้จริง สิ่งต่างๆ อาจไม่ได้รับการแก้ไขในหนึ่งหรือสองวัน แต่การเข้ามาควบคุมอีกครั้ง คุณสามารถสร้างผลลัพธ์ของคุณเองได้อย่างแท้จริง แม้ว่าจะใช้เวลานานกว่านั้นก็ตาม อย่าปล่อยให้ชีวิตของคุณถูกคนอื่นดำเนินไป มันคือชีวิตของคุณ ความรับผิดชอบของคุณ คุณแสดงตัวเองว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตคุณ อย่ากลัวที่จะทำมันสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนเสมอไปบางครั้งสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณและในบางครั้งก็ไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคุณสังเกตเห็นว่าคุณกำลังมุ่งหน้าไปในทางที่ผิด อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนทิศทาง การดื้อรั้นและดำเนินต่อไปในทิศทางที่ผิดเดิมจะทำให้คุณอยู่ห่างจากจุดหมายปลายทางมากขึ้นเท่านั้นอุปมานี้สามารถใช้ได้กับทุกแง่มุมของชีวิตเรา ปลายทางสามารถมีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับทุกคน ซึ่งอาจรวมถึงคนที่คุณมีส่วนร่วมหรือเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้สำหรับตัวคุณเองหากคุณตระหนักถึงบางสิ่งหรือบางคนที่กีดกันคุณไม่ให้เติบโตและรู้สึกมีความสุขอย่าคาดหวังว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนไป คุณจะต้องทำการเปลี่ยนแปลง บางคนจะยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น แต่นี่คือจุดที่คุณเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ…
การเปิดกายทิพย์ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้เรา #เข้าใจต่อ การฝึกฝนของความก้าวหน้าของดวงวิญญาณ นั่งสมาธิ 10 นาทีที่ถูกต้องช่วยทำให้ชีวิตท่านเปลี่ยนแปลง ในแต่ละวันนอกจากเราจะฝึกสงบจิตคลื่นสมองยังเป็นสิ่งสำคัญ #บุคคลหนึ่งคนจะถูกพัฒนา IQ (Intelligence Quotient)ความฉลาดทางสติปัญญา เป็นความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การคำนวณ และการใช้เหตุผล EQ(Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น สามารถควบคุม อารมณ์และยับยั้งชั่งใจตนเองและแสดงออกอย่างเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักรอคอย รู้จักกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส และ มองโลกในแง่ดี การเจริญพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา) จะช่วยเสริม EQ ได้ CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ มีความคิด จินตนาการหรือแนวคิดใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่น การ เล่น งานศิลปะ และการประดิษฐ์สิ่งของ นักวิจัยพบว่าการเล่นและทำกิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการเช่น การเล่นศิลปะ การหยิบจับของใกล้ตัวมาเป็น ของเล่น การเล่านิทาน เป็นต้น…
#โลกภายในของคุณใหญ่และทรงพลังมากกว่าโลกที่คุณเห็นรอบตัวคุณ มีบางอย่างที่ดีในตัวคุณ บางคนกําลังเป็นพยานในการกระทํา วาจา และจิตใจของคุณ #ผู้สังเกตการณ์คนนั้นคือคุณ ส่วนที่ดีที่สุดในตัวคุณเอง #วันไหนที่คุณไปถึงขั้นนั้น#คุณจะไม่ประจานตัวเองต่อหน้าผู้อื่นอีกต่อไป#จากนั้นคุณจะไม่พบจุดอ่อนในตัวเองอีกต่อไป จงไปที่นั่นและพบว่าความปลอดภัย อยู่ภายใน อย่าหลงทางต่อไปภายนอกตัวคุณเองและไม่รู้ถึงธรรมชาติที่แท้จริงและเป็นธรรมชาติของคุณ นั่งสมาธิทุกวัน เข้าสู่ความเงียบสงบและนั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับแสงแห่งสัญชาตญาณที่เผาไหม้บนแท่นบูชา ไม่มีความกระสับกระส่าย ไม่มีการค้นหาหรือการมุ่งมั่นที่นั่น ตระหนักว่าความรู้ของตนเองสูงสุดอยู่ในตัวคุณ #ที่นั่นส่องประกายพลังของพระเจ้า ดื่มหัวเชื้อแห่งพระเจ้าที่หวานที่สุดและกลายเป็นอมตะ กลับสู่สูญญตา
สิ่งที่ผู้รู้พระเวทเรียกว่าความไม่เสื่อมสลายที่ผู้เลิกละผู้พ้นแล้วจากปัญหาและความคิดมั่นหันมาฝึกฝนเราจะบอกเจ้าอย่างคร่าวๆถึงวิธีที่จะไปถึงสิ่งนั้น ผู้ปิดทวารทั้งเก้าในกายกักจิตไว้ที่จักระหัวใจตั้งพลังชีวิตปราณไว้ในสมองใหญ่ตั้งจิตมั่นในโยคะ แน่วแน่อยู่ในในพระวัจนะศักดิ์สิทธิ์ แห่งพรหม ระลึกถึงแต่เรา(บรมวิญญาณ) เมื่อเขาละร่างนี้ ย่อมไปถึงเป้าหมายอันเลิศล้ำนั้น ผู้มีจิตแน่วแน่ ระลึกถึงเราต่อเนื่องทุกวัน จิตของท่านไม่หันเหไปจากเรา(คือบรมวิญญาณ) ท่านจะเข้าถึงเราได้โดยง่าย ผู้ภักดีจิตใจหนักแน่น เมื่อบรรลุถึงเรา (บรมวิญญาณ) ย่อมเข้าถึงความสำเร็จเลิศล้ำ จะไม่กลับ มาเกิดใหม่ได้แดนทุกข์ไร้ความจีรัง ผู้ที่ยังไม่พ้นจากโลก จะกลับจากแดนพรหม การรวมเป็นหนึ่งกับพระเจ้าในสมาธิ มาเกิดใหม่ (บนโลกนี้) แต่เมื่อเข้าถึงเราบรมวิญญาณอันประเสริฐท่านจะไม่เกิดใหม่อีกเลย
จิตวิญญาณเกิดขึ้นได้จากสภาวะการแตกตัวของวิญญาณ ที่ได้รับพลังจากจิตใต้สำนึก (พลังจิต) หรือการสั่นสะเทือนที่สะสมในระดับสูง (พลังขั้ว+สูง) ซึ่งการทำความสะอาดในพื้นที่จิตใต้สำนึกที่มีพลังงานลบ (-) สะสมนี้ ต้องอาศัยความรู้และความเพียร ทางปฏิบัติธรรมใช้วิธี กัมมัฎฐาน 38 วิธี (เจโตวิมุต) หรืออานาปานสติ (ปัญญาวิมุต) หรืออีกหนทางหนึ่งซึ่งต้องอาศัยผู้เชียวชาญให้คำชี้แนะ คือหนทางวชิระวิมุติ ซึ่งทางนี้จะมีความเกี่ยวข้องและสามารถอธิบายเกี่ยวกับเรื่องพลังงานลึกลับภายในมนุษย์ได้ การพบเจอ เทพพรหม เพื่อเป็นทางให้มนุษย์เดินจิตขึ้นสู่มิติที่สูงต่อไปได้ และยังมีวิธีการเข้าถึงจิตวิญญาณอีกหลายทาง ผู้ฝึกจำเป็นต้องศึกษาผู้ชำนาญและผู้รู้ที่สามารถอธิบายได้กระจ่างจริง มิเช่นนั้นท่านอาจพาดวงวิญญาณของตน หลงเส้นทางการฝึกฝนได้ ศิษย์ที่ดีต้องมีครู