ยินดีในความไม่มีทุกข์ของผู้อื่น

ภูมิธรรมแรกจะเชื่อมโยงกับทานบารมี
แต่ทานบารมีนี้จะไม่แยกกับปัญญา
เพราะทานบารมีจะเกิดเมื่อ
ไม่มีการแบ่งแยก ผู้ให้กับผู้รับ
ไม่มีการคาดหวัง
ทำบุญโดยไม่หวังบุญ
แค่ทำหน้าที่ตามปณิธาน
ที่เป็นเหตุปัจจัยชี้นำ

ดังนั้นแค่ภูมิธรรมแรก
ก็เริ่มปล่อยวางแล้ว
ทั้งตัวบุคคลและธรรมมีความปิติ
ในการหยั่งรู้ความว่างหล่อเลี้ยงใจ

๛คุรุจิตวิญญาณครูปุ๊ยแม่ครูน้อย๛
ครูผู้เชื่อมโยงสนามพลังงานเข้าสู่
มิติที่ห้าได้จริงมากกว่า 160 ชีวิต
ครูสอนให้ผู้คนรู้วิธีที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในจิตใจและเข้าถึงจิตวิญญาณ
#ครูผู้เชื่อมโยงสนามพลังงานเข้าสู่มิติที่ 5
#ครูผู้ถ่ายทอดมิติทางจิตและวิญญาณศาสตร์

Similar Posts

  • สุษุมนา

    #สุษุมนา คือ ไขสันหลังหรือช่องทางเดินชีวิตของกายทิพย์กายแสงอันปราณีตของมนุษย์ ปราณหรือประจุพลังชีวิตซึ่งเป็นกาบวิญญาณชั้นที่สองในบรรดากาบอุ้มวิญญาณสามชั้น กายเหตุหรือกายดำริ กายทิพย์และกายเนื้อกายทิพย์มีอำนาจให้ชีวิตแก่กายเนื้อเช่นเดียวกับที่ประจุไฟฟ้าทำให้หลอดไฟเกิดความสว่างในสมาธิภาวนาเมื่อจิตท่านสู่ภายในและไหลเข้าสู่กระแสชีวิต สุษุมมา มุนีจะได้ประสบการณ์อภิจิตอันเกษมหยั่งรู้ทิพยสัจจะคือรู้เหตุและสารัตถะแห่งสิ่งสร้าง#จิตของคุรุผู้นำทางศิษย์สู่แดนแห่งบรมวิญญาณ#ด้วยพรและญาณปัญญาอันเก่าเก่านิรันดร์ #ความเกษมที่ยิ่งลึกล้ำเมื่อผู้แสวงหาจิตวิญญาณพ้นจากกายไปรวมกับบรมวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ทั่ว#จงอย่าถอยหนีนกที่อยู่ในกรงจนชินมักจะลังเลเมื่อมีโอกาสที่จะพ้นจากกรงขังกลับสู่อิสรภาพทำนองเดียวกันวิญญาณที่จองจำอยู่กับกายอาจหวั่นไหวเมื่อแรกได้ประสบการณ์ความเกษมอันสถิตทั่วในสมาธิลึกแห่งโยคะ

  • เรากลายเป็นสังคมที่เน้นวัตถุนิยมและผลิตภาพสูง

    เรากลายเป็นสังคมที่เน้นวัตถุนิยมและผลิตภาพสูง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากดึงดูดให้ทำสิ่งพิธีกรรมฝ่ายวิญญาณและมีสิ่งฝ่ายวิญญาณมากกว่า #ที่จะเป็นฝ่ายวิญญาณจริงๆจำไว้ว่าจิตวิญญาณนั้นเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับบรมวิญญาณและการแสดงสถานะความรักสูงสุด ไม่พบในการ์ดหรือคริสตัล มนต์พิธีหรือคำยืนยัน หรือการบูชาใดๆ หากคุณพึ่งพาหรือใช้ “#พิธีกรรมทางจิตวิญญาณ” ใด ๆ ขอเชิญคุณตรวจสอบพิธีกรรมของคุณสิ่งที่คุณทำ และที่สำคัญที่สุดคือทำไมคุณถึงทำ พิธีกรรมหลายอย่างอาจเป็นประโยชน์และเป็นประโยชน์ แต่จุดประสงค์เบื้องหลังการใช้งานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตัวอย่างเช่น #หากคุณทำอะไรเพราะกลัว แสดงว่าคุณได้บล็อกการเชื่อมต่อกับแหล่งที่มาตัวอย่างเช่น บางคนใช้พิธีกรรมเฉพาะเพื่อ “ป้องกัน” ตัวเองจาก “พลังงานเชิงลบ” นี่คือตัวอย่างของการทำบางสิ่งด้วยความกลัว ความจริงแล้ว #คุณไม่มีอะไรต้องปกป้องตัวเอง ไม่มีอะไรต้องกลัว และไม่มี “พลังงานเชิงลบ” ใดที่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณ#หากคุณเชื่อมต่อและสั่นด้วยความถี่สูงของความรัก (#พลังงานความถี่ต่ำสามารถดึงดูดและส่งผลกระทบต่อพลังงานความถี่ต่ำที่คล้ายกันเท่านั้น)โชคไม่ดีที่พิธีกรรมมักถูกใช้โดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อสร้างอัตลักษณ์ทางจิตวิญญาณของอัตตา การทำบางสิ่งที่เป็นจิตวิญญาณทำให้เราเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นฝ่ายวิญญาณ แต่ทั้งสองไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้น หากมีการกระทำหรือเครื่องมือบางอย่างที่คุณอยากจะใช้หรือมีส่วนร่วมด้วย มันอาจจะดีตราบใดที่คุณทำเพื่อความรักที่จะทำ ไม่ใช่เพราะคุณคิดว่าคุณต้องทำหรือคิดว่าคุณควรจะทำ #พยายามคิดให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการเติมพลังให้อัตตาตัวตนทางจิตวิญญาณของคุณ ทำตามภูมิปัญญาของหัวใจของคุณแทน นี่อาจเป็น “พิธีกรรม” ที่ดีที่สุดและสำคัญที่สุด #ถ้าคุณอยากเรียกมันว่า ที่ใครๆ ก็ฝึกฝนได้

  • #มนุษย์สามารถดูดซับพลังงานของผู้อื่นได้

    #มนุษย์สามารถดูดซับพลังงานของผู้อื่นได้ พลังงานเป็นสิ่งที่ผู้คนตระหนักดีหรือหลงลืมไปโดยสิ้นเชิงเช่นกัน เราทุกคนมีพลังงานบางอย่าง และพลังงานนั้นเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราในขณะนี้ #คุณเคยอยู่กับคนที่เพิ่งลดการสั่นสะเทือนที่ไม่ดีหรือไม่? คุณไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าบุคคลนี้ทำผิดต่อคุณหรือทำอะไรที่ทำให้คุณขุ่นเคือง #แต่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เป็นพิษของพวกเขา คุณไม่ได้โดดเดี่ยว อันที่จริง คนส่วนใหญ่มักเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้บ่อยครั้ง#แต่ไม่เคยเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทำไม พืชมักจะดูดซับพลังงานของพืชชนิดอื่นแม้ว่าแหล่งพลังงานหลักของพืชจะผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง แต่ก็พบว่าพวกมันใช้แหล่งพลังงานเพิ่มเติม #นั่นคือพืชชนิดอื่น #ร่างกายมนุษย์เป็นเหมือนฟองน้ำดูดซับพลังงานต่างๆ รอบตัวเรา #นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีคนรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่ในกลุ่มบางกลุ่มที่มีพลังและอารมณ์ผสมกัน” “ร่างกายมนุษย์มีความคล้ายคลึงกับพืชที่ดูดกินมาก ดูดซับพลังงานที่จำเป็นในการเลี้ยงสภาวะอารมณ์ของคุณ และสามารถให้พลังงานแก่เซลล์ และเพิ่มปริมาณของคอร์ติซอลและ catabolize ให้อาหารเซลล์ขึ้นอยู่กับความต้องการทางอารมณ์” #วิธีการและเหตุผลที่ผู้คนสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของพวกเขาได้ทุกเมื่อ #มนุษยชาติส่วนใหญ่สูญเสียความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นการสูญเสียที่ทำให้มนุษยชาติไม่ได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนพลังงานใดๆ อย่างไรก็ตาม บางครั้งลิงก์นั้นถูกสร้างขึ้นใหม่ เหตุการณ์ที่มักปรากฏเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า “อาถรรพณ์” หรือ “เหนือธรรมชาติ”วัฒนธรรมโบราณจำนวนมากตระหนักดีถึงเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้อันเป็นผลมาจาก พลังงานต่างๆ #ที่มาถึงจุดสูงสุด#และปรากฏขึ้นในเวลาที่ต่างกัน ดูน้อยลง

  • เธอทั้งหลายยังรู้จักตัวเองกันน้อยเกินไปคือไม่รู้จักตัวเองว่า

    #เธอทั้งหลายยังรู้จักตัวเองกันน้อยเกินไปคือไม่รู้จักตัวเองว่า เด็กๆ #ทั้งหลายเป็นผู้สร้างโลกเธอไม่ใช่เป็นแต่เพียงว่า ‘เป็นเด็กวันนี้ เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า’ เหมือนที่เขาพูดๆ กัน มันไม่มีความหมายอะไรนัก ธรรมดามันก็เป็นอย่างนั้นอยู่เองแล้ว#เธอรู้จักตัวเองน้อยเกินไปจึงไม่รู้จักข้อนี้#ไม่รู้ถึงเกียรติอันสูงสุดว่าเป็นผู้สร้างโลก…โลกนี้ทั้งหมดย่อมประกอบอยู่ด้วยมนุษย์ทั้งหมด มนุษย์ทั้งหมดเป็นอย่างไรโลกนี้ก็เป็นอย่างนั้น เด็กทุกคนจะเป็นมนุษย์ทุกคนในอนาคตในโลก โลกจึงเป็นอย่างที่พวกเธอทุกคนเป็นในขณะนั้น หรือจะทำให้มันเป็นในขณะนั้นเธอจึงเตรียมตัวเป็นคนดี เพื่อโลกมันจะเป็นโลกที่ดีมีค่า และสวยสดงดงาม ไม่มีอะไรน่าขยะแขยง แล้วจะเป็นโลกที่มีสันติสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาแต่ก่อน ไม่มีวิกฤตการณ์อันเลวร้ายอันโสมมเหมือนที่กำลังมีอยู่ในโลกนี้ในเวลานี้#นี่เห็นไหมเธอทั้งหลายสามารถสร้างโลกพระศรีอาริยเมตไตรยขึ้นมาได้ ในเมื่อเธอทั้งหลายเป็นคนดีมีศีลธรรมที่เธอควรจะตั้งต้นกันเสียแต่บัดนี้ ศีลธรรมนั้นสรุปเป็นหัวข้อเพียง ๓ ข้อข้อที่ ๑ คือ #รักผู้อื่น – ผู้อื่นทั้งหลายถ้าเธอมองดูสักนิดจะเห็นว่ามันเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตายกันกับเรา มันมีใครเล่าที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย มันก็เกิด แก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน มีปัญหาอย่างเดียวกัน มีหัวอกอย่างเดียวกัน ทนทุกขเวทนาอย่างเดียวกัน เราจึงถือว่าเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน ครั้นรักผู้อื่นแล้วก็จะหมด #ความเห็นแก่ตัว อันเป็นสิ่งเลวร้ายทำลายโลก เธอรักผู้อื่นแล้วเธอก็ไม่อาจจะฆ่าใคร ไม่อาจจะทำอันตรายใครเธอรักผู้อื่นแล้วเธอก็ไม่อาจลักขโมยคดโกงใครเธอรักผู้อื่นแล้วไม่อาจจะล่วงละเมิดของรักของใคร่ของใครในทุกระดับ ตั้งแต่ของรักอย่างธรรมดาจนของรักสูงสุดในเรื่องบุตรภรรยาเป็นต้นเธอรักผู้อื่นแล้วไม่อาจจะโกหกพูดเท็จหลอกล่วงใครเพื่อเอาประโยชน์ของเขามาเธอรักผู้อื่นแล้วไม่อาจจะเสพของมึนเมาให้สูญเสียความเป็นมนุษย์ให้รำคาญแก่ผู้อื่นให้รำคาญแก่บิดามารดา ดังที่รำคาญกันอยู่ในเมื่อบุตรหลานเป็นผู้ติดยาเสพติดเมื่อรักผู้อื่นแล้วโลกนี้ก็จะมีแต่ความเมตตา กรุณา ช่วยเหลือกันฉันท์มิตรทุกทั่วหน้า…

  • จิต กับวิญญาณแยกได้กันได้หรือไม่

    จิต กับ วิญญาณ 2 สิ่งนี้ต้องแยกกันในที่สุด เหมือนเมล็ดข้าวจิตเปรียบเสมือน ข้าวขาววิญญาณเปรียบเสมือน เปลือกข้าวถ้าจิตกับวิญญาณไม่แยกจากกันมนุษย์ก็จักไม่รู้ความจริงของวิญญาณ ทางการฝึกฝนเรียกว่า การแยกกายแยกจิต แยกรูปแยกนาม (อาจฟังดูง่าย) เมื่อไม่เข้าถึง การฝึกฝนก็เปรียบได้กับการพายเรือในอ่าง

  • พระพุทธเจ้าได้ตรัสเตือน

    พระพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนให้เกิดสติขึ้นว่า ความทุกข์นี้มีเพราะความรักมีรักมากก็เป็นทุกข์มากมีรักน้อยก็เป็นทุกข์น้อยจนถึงไม่มีรักเลยจึงไม่ต้องเป็นทุกข์เลย  แต่ตามวิสัยโลกจะต้องมีความรักมีบุคคลและสิ่งที่รัก ในเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนให้มีสติควบคุมใจ #มิให้ความรักมีอำนาจเหนือสติ#แต่ให้สติมีอำนาจควบคุมความรัก ให้ดำเนินในทางที่ถูกและให้มีความรู้เท่าทันว่าจะต้องพลัดพรากรักสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน เมื่อถึงคราวเช่นนั้นจักได้ระงับใจลงได้  อันความรักหรือที่รัก เมื่อผู้ใดมีร้อยหนึ่ง ผู้นั้นก็มีทุกข์ร้อยหนึ่ง รักเก้าสิบ แปดสิบ เจ็ดสิบ หกสิบ ห้าสิบ เป็นต้น จำนวนทุกข์ก็มีเท่านั้น ถึงแม้มีรักเพียงอย่างหนึ่ง ก็มีทุกข์อย่างหนึ่ง ต่อเมื่อไม่มีรักจึงจะไม่มีทุกข์ ผู้หมดรักหมดทุกข์นั้นพระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่า“เป็นผู้ไม่มีโศก ไม่มีธุลีใจ ไม่มีคับแค้น”