ยิ่งกายแห่งแสงสว่าง

?️?#ยิ่งกายแห่งแสงสว่าง

อยู่ในระดับสูงมากเท่าใด ความหนาแน่นของกายเนื้อก็จะยิ่งน้อยลงมากเท่านั้นด้วย และยิ่งปริมาณแสงสว่างในร่างกายเนื้อของคุณมีมากเท่าใด ร่างกายเนื้อของคุณ ก็จะยิ่งสามารถรองรับจิตวิญญาณได้ในระดับสูงมากเท่านั้นด้วย และปลายทางของกระบวนการพัฒนากายแห่งแสงสว่างที่กำลังดำเนินไป ภายใต้กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นอยู่นี้

????#คุณจะสามารถผสานรวมกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ …..

ส่วนการลงมา (Descension) ของจิตวิญญาณ ก็เป็นกลไกที่ใช้สำหรับการ “นำเข้ามา” หรือ “เปิดการทำงานขึ้น”

?️??#ของพรสวรรค์ต่างๆด้านจิตวิญญาณของคุรุทั้งหลาย….

กระบวนการพัฒนากายแห่งแสงสว่างนี้ มีอยู่ 12 ขั้นตอน หรือ 12 ระดับด้วยกัน และเมื่อแต่ละระดับเสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงแล้ว การเปลี่ยนแปลงต่างๆทางกายภาพ ที่เกิดขึ้นควบคู่กันมาตลอดนั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อทุกๆด้านของชีวิตและของจิตวิญญาณของคนๆนั้นด้วย

?️?#เพราะระหว่างขั้นตอนของการพัฒนากายแห่งแสงสว่างนี้ มันได้ถูกออกแบบมาให้ไปดึงเอาปัญหาต่างๆของมนุษย์ทุกๆปัญหาขึ้นมาด้วย และยิ่งเข้าสู่ระดับขั้นสูงมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจะไปดึงเอาปัญหาที่อยู่ลึกลงไปได้มากขึ้นเท่านั้นด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะช่วยให้พวกคุณสามารถชำระสะสาง ความคิด, จิตใจ, อารมณ์ความรู้สึก, ร่างกาย และจิตวิญญาณ ให้สะอาดปลอดโปร่งได้

หากปัญหาโผล่ขึ้นมาให้เห็นได้มากเท่าใด พวกคุณก็จะยิ่งมีโอกาสมากขึ้น ที่จะปล่อยให้ “การยอมรับความจริง” ช่วยเปลี่ยนสถานะของพวกมันให้กับคุณได้ หรือมีโอกาสมากขึ้น ที่จะกำจัดพวกมันออกไปมากเท่านั้น

?️? และด้วยการใช้เทคโนโลยีแห่งแสงสว่าง ที่มีใช้กันอยู่แล้ว ตั้งแต่เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
(เช่น N.L.P, body work, rebirthing, body electronic เป็นต้น) ได้ ที่มันจะมี “ช่องว่าง” หรือ “Void Space” แทรกอยู่ระหว่างจุดสิ้นสุด กับ จุดเริ่มต้น ของแต่ละระดับขั้น ของกระบวนการการพัฒนากายแห่งแสงสว่างนี้ ที่พวกเราเรียกกันว่า “

?️???#การดับของ ego” (ego death) ซึ่งในช่วงว่างดังกล่าวนี้ มันอาจจะปรากฎออกมาในรูปแบบของ “การหดหู่ซึมเศร้า” หรือ “ความรู้สึกไม่เหลืออะไรอยู่เลย” (sense of nothingness) ก็เป็นได้

ซึ่งช่องว่างที่ว่านี้ มีไว้ให้พวกคุณใช้เป็น “จุดหยุดพัก” ก่อนที่จะเดินทางต่อไป และช่องว่างนี้ก็เป็นสถานที่เป็นเส้นทางของพลังงานอย่างหนึ่ง ที่ไม่มีอะไรอยู่ ดังนั้น… พวกคุณจึงสามารถใช้มันเพื่อสร้างภาพและชีวิตของตัวเองขึ้นมาใหม่ได้

?️?#ก่อนที่คุณจะก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไป
และช่องว่างนี้ ก็เป็นภาชนะที่ใช้สำหรับผสมรวมสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน (Integration chamber)
หรือบางทีเราอาจจะเรียกมันว่า เป็น “รังไหมของดักแด้” ก็ได้ เพราะว่ามันคือที่ๆพวกคุณจะใช้เพื่อพักผ่อน และก่อรูปก่อร่างเพื่อกลายไปเป็นผีเสื้อแสนสวยในขั้นตอนถัดไป..

MAEKHUNOY
เทวดาประจำตัว

Similar Posts

  • แม่สร้อยศรีสุดาจันทร์ (นาคิณี)

    #แม่สร้อยศรีสุดาจันทร์ (นาคิณี) ท่านเป็นมเหสีองค์ที่ ๗ ของพญาศรีสุทโธ นาคราช มีความงามแบบธรรมชาติชอบสันโดษ อยู่แบบเรียบง่ายสมถะเก่งด้านงานหัตถกรรมและด้านการร่ายรำถวายรำได้อ่อนช้อยพิสดารงดงามมากเป็นที่โปรดปรานของแม่ย่าศรีประทุมมา( มเหสีองค์แรก ) #ด้วยความเมตตาเสมอมา พญาศรีสุทโธท่านก็ให้ความรัก ความเมตตา ในความเรียบง่ายสมถะเช่นกัน จึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับแม่สร้อยฯ มากกว่ามเหสีองค์อื่น เป็นธรรมดาไม่ว่าภพมนุษย์ หรือภพบาดาล ความอิจฉา ริษยา ก็มีเหมือนกัน แม่สร้อยจึงตกเป็นเป้าของคำว่า อิจฉา (ริษยา แปลคือ จ้องทำร้ายให้ถึงแก่ความตาย) นี่คือที่มาของคำว่า #เจ้ากรรมนายเวร เมื่อมีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์มีอาการครบ ๓๒ แล้วได้พบพุทธศาสนา มีโอกาสแล้วที่จะบำเพ็ญเพียรเพื่อการพ้นทุกข์ เพราะอานิสงส์นี้มีบุญบารมีมาก แผ่ไปให้เทวดาที่รักษาตน พร้อมเจ้ากรรมนายเวร โอกาสที่จะแก้ไข ชดใช้กรรมชั่ว(อกุศลกรรม) ให้เบาบางลงเสียที กรรมดีที่เคยสร้างสะสมไว้จะได้แสดงตัว ความทุกข์จึงค่อยจางลง #แล้วจึงพบแต่ความเจริญทั้งทางโลก และทางธรรม พระนามคือพระนางสร้อยศรีสุดาจันทร์หรือคนทั่วไปหลายคนเอ่ยพระนามท่านเพี้ยนไปว่า#ศรีสุดาจันทร์ พระนางเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของเจ้าฟ้าหญิงพระองค์เจ้าศรีประทุมมานาคิณีซึ่งพระองค์ทรงเป็นมเหสีเอกของสมเด็จเจ้าพญานาคาธิบดีศรีสุทโธวิสุทธิเทวา สำหรับพระนางสร้อยศรีสุดาจันทร์นี้พระองค์ทรงโปรดงานเย็บปักทักร้อย ประดิษฐ์ประดอยเก่งมาก เช่นการทำฉลององค์ถวายสมเด็จเจ้าพญานาคาธิบดีศรีสุทโธวิสุทธิเทวา ที่ว่านางสนมนาคีขึ้นมาบนโลกมนุษย์มายืม(เฟือม)ทอผ้าจากช้าวบ้าน และการทำบายศรี เป็นต้น #ส่วนเจ้าฟ้าหญิงพระองค์เจ้าศรีประทุมมานาคิณี พระองค์ไม่ค่อยได้ทรงงานอะไรมากนัก แต่พระนางทรงชอบการบำเพ็ญภาวนามีน้ำพระทัยที่งดงาม พระนางมีพระกิริยาที่สวยสดงดงามสมดังมเหสีขององค์ราชาผู้เป็นใหญ่ใต้บาดาลที่มีบริวารมากล้นอย่างเช่นภาษาอิสานว่า (มีเหล่าบริวาลหมื่อกือกองล้าน) เป็นเกล็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากเจ้าชายเสลี่ยงรัตน์ราชนาคาโอรสธิดาของสมเด็จเจ้าพญานาคาธิบดีศรีสุทโธวิสุทธิเทวา…

  • อัครบุคคลแห่งชาติ

    อัครบุคคลแห่งชาติ #โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่#เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยันคงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย #โครงการปณิธานความดีแผ่นดินพ่อ#อัครบุคคลแห่งชาติ ปี 2564 ผู้มีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญพิเศษหรือการปฏิบัติตนและงานหน้าที่ความรับผิดชอบโดยยึดหลักวินัยคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ สร้างและหรือพัฒนาบริหารจัดการทั้งการพัฒนาตนเองพัฒนาชีวิตและวิชาชีพเป็นแบบอย่างที่ดีหรือผู้นำแก้ไขปัญหาด้วยกลยุทธ์สร้างคุณภาพและพัฒนาการเรียนรู้ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักเกณฑ์ของ #อัครบุคคลแห่งชาติ พัฒนาบุคคลผู้ที่ทำให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติยึดหลักแห่งการทำความดีเพื่อแผ่นดินเกิดแผ่นดินพ่อตามรอยพระยุคลบาท ตนตามรอย ในอันที่จะดำรงตนด้วยสันติสุขและความเจริญสู่สังคมและประเทศชาติ #งานพิธีประทานรางวัลเกียรติคุณวิทยฐานะ อัครบุคคลแห่งชาติ(พรหมนาคา) ประจำปี 2564โครงการปณิธานความดีเพื่อ“แผ่นดินพ่อ” #อัครบุคคลแห่งชาติ ผู้เข้ารับรางวัลเฝ้ารับเสด็จองค์ประธานพิธี พลเอก หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล วันอาทิตย์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564 รางวัล อัครบุคคลแห่งชาติ (พรหมนาคา) ประจำปี 2564 สาขา ผู้ส่งเสริมเผยแผ่ศาสนาดีเด่นคุณเอื้องจันทร์ ธ. (แม่ครูน้อย)ครูจิตวิญาณ ประตูธรรม๕หนเหนือ(ผู้เชี่ยวชาญด้านวิญญาณศาสตร์)

  • สติ 3 ระดับ

    สติ 3 ระดับ > (#คุณมีสติระดับไหน)สติมีด้วยกัน 3 ระดับ1. #สติระดับควบคุมความคิดสติระดับนี้เป็นสติขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ต้องใช้เพื่อดำรงชีวิตประจำวัน เป็นสติที่มีอยู่แล้วในสัตว์โลกตั้งแต่มนุษย์ขึ้นไป เป็นสติที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงาน ความสัมพันธ์ และการแสดงออกให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น นึกว่า “ขณะนี้เรากำลังทำงานอยู่ ก็ต้องตั้งใจทำงาน” หรือนึกว่า “เราไม่ควรไปโกรธเขาเลย ให้อภัยเขาจะดีกว่า จะได้ไม่มีเรื่องติดใจต่อกัน” การฉุกคิดในลักษณะนี้ ล้วนเกิดจากการใช้สติในการควบคุมความคิดทั้งสิ้น》สติระดับที่หนึ่งเป็นสติที่ทำให้เรากลายเป็นผู้มองโลกในแง่ดี ถ้าใช้สติระดับที่หนึ่งบ่อยๆ ชีวิตในโลกภายนอกก็จะพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ2. #สติระดับเห็นความคิดสติระดับนี้เป็นสติที่พระพุทธเจ้าทรงคิดขึ้นมาเป็นคนแรก เป็นการกำหนดสมาธิ วางใจให้เป็นกลาง แล้วจึงใช้สติดึงจิตให้หลุดจากความคิดมาเป็นผู้สังเกต การฝึกสติเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้กลายเป็นผู้เท่าทันความคิด สามารถเห็นการเกิดขึ้นและดับไปของความคิด ทำให้อยู่เหนืออารมณ์ของตนเองได้ ความทุกข์ต่างๆ จะน้อยลง ความสุขจะเพิ่มขึ้น อัตตาตัวตนจะทุเลาเบา ถ้าฝึกสติในระดับนี้เป็นประจำ สติในระดับแรกก็จะเกิดง่ายขึ้น 》สติระดับที่สองนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการฝึกจิตอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่การฝึกวิปัสสนากรรมฐานเป็นต้น3. #สติระดับเหนือความคิด (มหาสติมหาปัญญา)สติระดับที่สามนี้ เป็นสติที่ก่อให้เกิดปัญญาทะลุโลก เป็นสติที่เกิดขึ้นจากการฝึกฝนสติในระดับที่สองจนเกิดความชำนาญ สติระดับมหาสติมหาปัญญานี้ ไม่จำเป็นต้องใช้การฉุกคิด เพราะเป็นสติที่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานเหมือนสายน้ำไหล ไม่มีวันหยุด ไม่มีวันลืม ไม่มีวันเผลอ ไม่มีคำว่าขาดช่วงขาดตอน กล่าวคือเป็นสติที่มีความเร็ว จนสามารถเห็นว่าความคิดและความรู้สึกมีกระบวนการทำงานอย่างไร…

  • มิตรภาพที่แท้ตั้งอยู่บนความไว้เนื้อเชื่อใจ

    มิตรภาพที่แท้ตั้งอยู่บนความไว้เนื้อเชื่อใจถ้าเธอรู้สึกใส่ใจในความเป็นสุขของผู้อื่นอย่างแท้จริงความไว้วางใจก็จะเกิดขึ้นเองนั่นคือพื้นฐานของความเป็นมิตรพวกเราล้วนเป็นสัตว์สังคมเราต้องการเพื่อนเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดตั้งแต่เราเกิดจนกระทั่งเราตายทุกคนจำเป็นต้องอาศัยความรักเพื่อที่จะมีชีวิตรอด แม่เป็นตัวอย่างที่ได้แสดงความรักและความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อเราตอนที่เราเกิด เรากล้ายืนเคียงข้างใครหนึ่งคนแบบสนิทใจหรือไม่ โดยที่เขานั้นไม่ได้สนิทใจต่อเรา ถ้าคำตอบคุณคือ ….กล้านั่นแปรว่า …หัวใจคุณหนักแน่นและยิ่งใหญ่ มากกว่าสิ่งใดจะทำให้ไหวเอน คุณมีแรง ปรารถนาของพรหมวิหาร ที่ชนะใจตนเองหลวงปู่จันทิมา (วัดหัวเสียง) จ.แม่ฮ่องสอน

  • ส่วนความดีชั้นเอกก็คือความดีที่ชนะความชั่วของตนเอง

    ความดีที่จะทำให้สำเร็จการชนะนั้นก็ต้องใช้ปัญญาค้นหา คือวิธีชนะที่จะไม่ต้องเบียดเบียนใครเป็นความดีชั้นตรี ถ้าเป็นการชนะชนิดที่เกื้อกูลเขาอีกด้วย โดยเฉพาะทำให้เขาซึ่งเป็นคนไม่ดีเลิกละความไม่ดีของเขา หรือกลับเป็นคนดีก็นับว่าเป็นความดีชั้นโท #ส่วนความดีชั้นเอกก็คือความดีที่ชนะความชั่วของตนเอง

  • #คำว่าชีวิต

    #คำว่าชีวิต มิได้มีความหมายเพียงแค่ความเป็นอยู่แห่งร่างกาย แต่หมายถึงความสุข ความทุกข์ ความเจริญ ความเสื่อม ของบุคคลในทางต่างๆ ด้วย บางคนมีปัญหาว่า จะวาดภาพชีวิตของตนอย่างไรในอนาคต หรืออะไรควรจะเป็นจุดมุ่งหมายของชีวิต และจะไปถึงจุดหมายนั้นหรือที่นึกที่วาดภาพไว้นั้นด้วยอะไร ปัญหาที่ถามคลุมไปดังนี้ น่าจะตอบให้ตรงจุดเฉพาะบุคคลได้ยาก เพราะไม่รู้ว่าทางแห่งชีวิตของแต่ละบุคคลตามที่กรรมกำหนดไว้เป็นอย่างไร และถ้าวาดภาพของชีวิตอนาคตไว้เกินวิสัยของตนที่จะพึงถึง แบบที่เรียกว่าสร้างวิมานบนอากาศ ก็จะเกิดความสำเร็จขึ้นมาไม่ได้แน่  หรือแม้วาดภาพชีวิตไว้ในวิสัยที่พึงได้พึงถึง แต่ขาดเหตุที่จะอุปการะให้ไปถึงจุดหมายนั้นก็ยากอีกเหมือนกันที่จะเกิดเป็นความจริงขึ้นมา ชีวิตคนเรา เติบโตขึ้นมาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความเมตตากรุณาจากผู้อื่นมาตั้งแต่เบื้องต้น คือ เมตตา กรุณา จากบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ญาติสนิท มิตรสหาย ถ้าไม่ได้รับความเมตตา ก็อาจจะสิ้นชีวิตไปแล้วเพราะถูกทิ้ง เมื่อเราเติบโตมาจากความเมตตากรุณา  ก็ควรมีความเมตตากรุณาต่อชีวิตอื่นต่อไป วิธีปลูกความเมตตากรุณา คือ ต้องตั้งใจปรารถนาให้เขาเป็นสุข ตั้งใจปรารถนาให้เขาปราศจากทุกข์ โดยเริ่มจากเมตตาตัวเองก่อน แล้วคิดไปถึงคนใกล้ชิด คนที่เรารัก จะทำให้เกิดความเมตตาได้ง่าย แล้วค่อยๆ คิดไปให้ความเมตตาต่อคนที่ห่างออกไปโดยลำดับ การแก้ปัญหาของคนเรา ถ้าป้องกันไว้ก่อนแก้ไม่ทันก็แก้เมื่อปัญหายังเล็กน้อยจะง่ายกว่า เหมือนอย่างดับไฟกองเล็กง่ายกว่าดับไฟกองโต ถ้าเป็นผู้ที่สนใจธรรมะบ้างก็จะหาหนทางปฏิบัติได้ถูกต้อง ดังที่พระพุทธเจ้ายกขึ้นแสดงว่า ธรรมะพันเกี่ยวข้องกับตัวเราเอง ทุกๆ คนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง ถ้าตั้งมั่นในการประพฤติธรรมให้พอเหมาะแก่ภาวะของตนเอง ก็จะทำให้พ้นจากความทุกข์ภัยพิบัติได้…